อำเภอคิชิวะดะและ "เทศกาลดันจิริ" มีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแบบที่คุณไม่สามารถจินตนาการได้จากเทศกาลอื่น ปฏิทินของเมืองเริ่มต้นในเดือนกันยายนซึ่งเป็นเดือนที่มีเทศกาล เด็กๆที่เกิดในคิชิวะดะจะจดจำวิธีลากซุ้ม "ดันจิริ" ได้ก่อนวิธีเล่นเบสบอลหรือฟุตบอลเสียอีก
เอกลักษณ์ที่สำคัญของ "เทศกาลคิชิวะดะ ดันจิริ" คือการแบกซุ้มที่เรียกว่า "ดันจิริ" ไปทั่วเมืองด้วยท่าทีดุเดือดราวกับจะพุ่งเข้าชน ซุ้ม "ดันจิริ" หนักสูงสุดประมาณ 4 ตัน และต้องใช้แรงผู้ชาย 400 - 1,000 คน ดึงรั้งเชือก 2 เส้นอย่างทรงพลัง โดยเฉพาะในจังหวะเลี้ยวเป็นมุมฉากหรือที่เรียกว่า "ยะริมะวะชิ" ที่เร่งความเร็วอย่างเต็มที่ จุดนี้ถือเป็นเสน่ห์อันดับหนึ่งของเทศกาล เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ซุ้มดันจิริแต่ละหลังซึ่งประดับประดาด้วยโคมไฟกว่า 200 ชิ้นจะดูแตกต่างจากช่วงกลางวันอย่างสิ้นเชิง และจะเปลี่ยนมาจูงโดยเด็กๆอย่างเชื่องช้า
เชื่อกันว่าเทศกาลเริ่มต้นขึ้นในปี 1703 โดยเริ่มจากเทศกาลอินะริ เนื่องจากท่านโอคะเบะ นะกะยะสุ ผู้ครองแคว้นคิชิวะดะในยุคนั้นต้องการขอพรให้การเกษตรอุดมสมบูรณ์ หลังจากนั้นทักษะและจิตใจที่ฝังรากลึกตลอด 300 ปีก็ยังคงได้รับการถ่ายทอดสู่ชาวเมืองที่เติบโตขึ้นมาในพื้นที่แห่งนี้
ไฮไลท์ของเทศกาลคิชิวะดะ ดันจิริ คือจังหวะที่เรียกว่า "ยะริมะวะชิ" ลูกหาบชายฉกรรจ์ประมาณ 400 - 1,000 คนจะหมุนซุ้มดันจิริหนักประมาณ 4 ตันสุดแรงกำลัง หักเป็นมุมฉากอย่างฉับพลัน เมื่อเข้าไปชมใกล้ๆ จะได้ยินเสียงบอกจังหวะโดยพร้อมเพรียงว่า "โซเรียะ โซเรียะ" และเห็นการโถมแรงเข้าใส่ให้ซุ้มเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
การหมุนทิศทางของซุ้มในมุมฉากโดยยังคงความฮึกเหิมเช่นนี้ไม่ใช่เทคนิคง่ายๆ ต้องอาศัยทักษะความชำนาญและการผสานลมหายใจเป็นหนึ่งของกลุ่มลูกหาบ แต่ละคนแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน เช่น ผู้นำทาง, ผู้ให้สัญญาณการหมุน ฯลฯ การร่วมแรงร่วมใจกันภายในกลุ่มดังกล่าวถือเป็นไฮไลท์เด่นของเทศกาลนี้
แม้ว่าจะดูดุดันขึงขัง แต่ซุ้ม "ดันจิริ" กลับแฝงความงดงามของงานแกะสลักไม้เอาไว้อย่างปราณีต ไม่มีการใช้เทคนิคปิดทองหรือการลงรัก แต่สามารถแกะสลักไม้เป็นรูปทรงต่างๆตามความต้องการได้อย่างสมจริง เช่น รูปบุคคล ม้า ปีศาจ นก และดอกไม้ รวมไปถึงลวดลายต่างๆ
ซุ้มเทพเจ้าในงานเทศกาลทั่วประเทศญี่ปุ่นมักจะประดับประดาอย่างงดงาม ให้ความรู้สึกหรูหรา แต่ซุ้ม "ดันจิริ" ของคิชิวะดะจะเน้นงานแกะสลักไม้ที่สืบสานกันมาในตระกูลช่างชาววังผู้มีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ศาลเจ้านิกโกโทโชกู ให้ภาพลักษณ์เรียบง่าย แต่สง่างาม
ในขณะที่ซุ้ม "ดันจิริ" เผยให้เห็น "การเคลื่อนไหว" อย่างสง่างามในช่วงกลางวัน ในช่วงกลางคืน คุณจะได้เห็นขบวนแห่ประดับโคมไฟที่เชื่องช้าโดยแรงของเด็กๆซึ่งนำเสนอ "ความเงียบสงบ" ให้ได้สัมผัส ซุ้มรถเข็นที่ประดับประดาด้วยโคมไฟ 200 ชิ้นจะแปรเปลี่ยนจากความดุดันเป็นบรรยากาศต้องมนต์ขลัง การแกะสลักอันละเอียดอ่อนบนซุ้มดันจิริถือเป็นผลงานแห่งความภาคภูมิใจของผู้ร่วมงานแต่ละตำบล หากต้องการชมอย่างใกล้ชิด ขอแนะนำ "พาเหรดช่วงกลางคืน" ที่แห่ไปรอบเมืองอย่างเชื่องช้านี้
กรุณาปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่สวมฮัปปิ
ห้ามเข้าไปในพื้นที่อันตรายโดยเด็ดขาด
ห้ามเข้าใกล้ซุ้มที่กำลังเคลื่อนที่
ห้ามสัมผัสซุ้มที่จอดนิ่งอยู่กับที่
ห้ามเข้าไปในพื้นที่ต้องห้าม (เช่น จุดพักของผู้ประกอบพิธี)
ซุ้มดันจิริจะเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว ต้องระมัดระวังไม่ให้พลัดเข้าไปในกลุ่มลูกหาบ
ถนนบางส่วนมีพื้นที่ค่อนข้างแคบ กรุณาระมัดระวังผู้เข้าร่วมงานและนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ
การเดินทางสู่อำเภอคิชิวะดะ
(สถานีที่ใกล้ที่สุด)
เทศกาลเดือนกันยายน
"สถานีฮะรุกิ" "สถานีคิชิวะดะ" "สถานีทะโกจิโซ" รถไฟนันไค สายหลักนันไค
เทศกาลเดือนตุลาคม
"สถานีคุเมดะ" "สถานีคุดะมัตซึ" "สถานีฮิกะชิคิชิวะดะ" รถไฟ JR สายฮันวะ
พื้นที่จัดงาน
ทั่วบริเวณอำเภอคิชิวะดะ
เทศกาลเดือนกันยายน
พื้นที่คิชิวะดะ, พื้นที่ฮะรุกิ
เทศกาลเดือนตุลาคม
พื้นที่ยะกิ, พื้นที่มินะมิคะโมริ, พื้นที่ฮิกะชิคิชิวะดะ, พื้นที่ยะมะได, พื้นที่ยะมะไดมินะมิ, พื้นที่ยะมะทะกิ